รวบวัยรุ่นมือมีดแทงรุ่นพี่ดับ หลังชกต่อยกันในวงเหล้า

รวบวัยรุ่นมือมีดแทงรุ่นพี่ดับ หลังชกต่อยกันในวงเหล้า

จากกรณีที่มีชายถูกแทงด้วยอาวุธมีดเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1/24 หมู่ 5 ซอยบุญถนอม ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทราบชื่อคือ นายกิตติชัย กุลธรรมโม อายุ 23 ปี พนักงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของบริษัท ไลเน็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเจ้าหน้าที่พบมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ใต้ชายโครงข้างซ้ายทะลุปอด และที่ต้นขาขวา รวม 2 แผล ผู้ก่อเหตุคือ นายอนุภัทร หรือ บิ๊ก พลฤทธิ์ อายุ 19 ปี โดยหลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเซินริวก้า อินฟินิต สีดำ หลบหนีไป

พยานที่อยู่ในเหตุการณ์คือ นายพิทักษ์ รู้รักษา อายุ 23 ปี เล่าว่า

 ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยผู้ตายและผู้ก่อเหตุ ได้มาตั้งวงดื่มเหล้ากันที่ห้องเช่าของน้องชายตนซึ่งอยู่ชั้นที่สองของห้องเช่าดังกล่าว ระหว่างที่นั่งดื่มเหล้ากัน นายบิ๊ก ผู้ก่อเหตุก็ได้ออกปากขอโทษผู้ตายเรื่องที่เมื่อคืนตนทำผิดไปที่เข้าไปทำร้ายพี่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ส่วนผู้ตายพูดว่ามึงเละแน่ ตนได้ยินแค่นั้นก่อนที่จะเกิดเหตุชุลมุน

ตนเห็นนายบิ๊ก ผู้ก่อเหตุชักมีดปลายแหลมออกมาแทงผู้ตายไป 2 ครั้ง ตนจะเข้าไปห้ามก็ไม่กล้า เพราะผู้ก่อเหตุมีมีดอยู่ ผู้ตายจึงได้วิ่งหนีลงมาด้านล่างก่อนที่จะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องประกอบงานไม้ซึ่งอยู่ใกล้กัน ส่วนนายบิ๊กได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตนและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันพาผู้ตายออกมาจากห้อง ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำร่างของผู้ตายออกมาที่ถนนหน้าบ้านดังกล่าวรอการช่วยเหลือ แต่คาดว่าผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตลง

ต่อมาเวลา 01.00 น. วันนี้ ตำรวจสภ.สำโรงใต้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ สามารถติดตามจับกุมตัว นายอนุภัทร พร้อมด้วยของกลาง อาวุธมีดปลายแหลม ความยาว 10 นิ้ว ที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย บนขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช ขบวนรถไฟ 173 ที่จอดเทียบชานชาลาอยู่ที่ สถานีรถไฟหัวหิน ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.พระประแดง

นายอนุภัทร สารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยตนและนายกิตติชัย ผู้เสียชีวิต เป็นเพื่อนกันและทำงานอยู่ที่เดียวกัน คืนก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกันและชกต่อยกันมาแล้ว และวันเกิดเหตุได้มาพบกันอีกในที่เกิดเหตุเพื่อมาเคลียร์กัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ทั้งที่ตนพยายามขอโทษแล้ว แต่นายกิตติชัยไม่ยอม จึงได้ชกต่อยกันอีก ตนสู้ไม่ได้เลยได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาแทงนายกิตติชัย

หลังจากก่อเหตุ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปที่บ้านพักภายในซอยหมาดู ริมถนนรถรางเก่า ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร จากนั้นตนจึงหนีไปขึ้นรถ BTS ไปลงที่หัวลำโพง และขึ้นรถไฟสาย กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช เพื่อหนีไปจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสวนยางที่ทำงานของพ่อตน แต่มาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน

จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายสิทธิพร พบว่า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อเวลา 23.05 น. ว่า ‘ไปไอ้ลูกรัก ไปกับพ่อนะ’ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน จะไปสอบสวนนายสิทธิพรอีกครั้งที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบางปะอิน

เด็กหญิง 13 เหยื่อขืนใจดิ่งตึกฆ่าตัวตาย แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ

จากกรณีที่เด็กหญิงวัย 13 ปี ‘น้องพิ้งกี้’ กระโดดจากคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอยรามคำแหง 1 ถนนรามคำแหงลงมาเสียชีวิต โดยแม่ของด.ญ.พยายามวิ่งไปห้าม แต่ไม่ทัน หลังจากเด็กโดนแก๊งวัยรุ่นชายลวงไปข่มขืน ช่วงเที่ยงวานนี้ (16 พ.ย.) น.ส.พร อายุ 45 ปี มารดาของน้องพิ้งกี้ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอรับศพน้องพิ้งกี้ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า หลังเจ้าหน้าที่เข็นร่างน้องพิ้งกี้ออกมาจากห้องผ่าพิสูจน์ น.ส.พร ถึงกับร่ำไห้และเข้าไปกอดร่างลูกสาวด้วยความเสียใจ

ก่อนหน้านี้ ผู้ตายมีปากเสียงกับแม่ ก่อนจะวิ่งหนีออกจากห้องพักชั้น 6 ขึ้นไปยังดาดฟ้าชั้น 12 โดยผู้เป็นแม่ได้วิ่งตามขึ้นไป พบว่าลูกสาวกำลังจะกระโดดตึกลงไป จึงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน โดยก่อนเกิดเหตุสลดผู้ตายได้โพสต์เฟซบุ๊กด้วยว่า “กูไปแล้วนะ กูรักมึง” เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 16 พ.ย.

ผู้เป็นแม่ เผยว่า สาเหตุลูกสาวกระโดดลงมาเสียชีวิตว่าน่าจะเกิดจากความเครียด กดดันและหวาดกลัว เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ น้องพิ้งกี้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5-6 คนกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ภายในบ้านพักย่านคลองตัน ซึ่งต่อมาตำรวจ สน.คลองตัน บุกเข้าช่วยเหลือและนำตัวน้องออกมาได้ในสภาพคล้ายคนถูกมอมยา จากการตรวจร่างกายพบว่า ลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศ และตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้เพียง 2 คน ที่เหลือยังหลบหนี

เวลาประมาณเที่ยงคืนของวันเกิดเหตุ น้องกลับเข้าบ้าน พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนพยายามปลอบใจ ให้ลูกอาบน้ำและกินยาที่โรงพยาบาลจ่ายมาให้ทานก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังจากลูกกินยาก็พยายามจะออกไปข้างนอกอีกครั้ง โดยบอกกับตนว่าจะออกไปหาเพื่อน แต่ตนไม่ยอมให้ออก ทำให้ลูกสาวร้องไห้หนัก ก่อนวิ่งออกจากห้องขึ้นบันไดชั้นดาดฟ้า

ตนได้วิ่งตามขึ้นไป แต่ความดันขึ้นต้องเดินลงมานอนพักในห้อง เมื่ออาการดีขึ้นจึงตามไป เห็นลูกสาวยืนบนขอบระเบียง ตนพยายามวิ่งไปคว้าร่างลูกไว้ แต่ไม่ทัน ลูกสาวทิ้งตัวลงจากดาดฟ้าร่างตกกระทบพื้นไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนี้จะนำศพของน้องไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามที่สุเหร่าคลองตัน

ตำรวจสน.หัวหมาก เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงพิธีศพของน้องไปก่อน จึงจะติดต่อมารดาเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมถึงมูลเหตุจูงในการเสียชีวิต ส่วนกระแสข่าวที่ว่าผู้ตายตั้งครรถ์ 1 เดือนนั้น เป็นคำพูดจากพยาน ซึ่งยังไม่ยืนยันว่าจริงเท็จอย่างไร ต้องรอผลแพทย์อย่างละเอียดก่อน

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร